กลุ่มพลังมวลชนปัตตานี ผนึกกำลังกับกลุ่มพลังมวลชนสตรี , เด็ก และเยาวชน แห่ง จ.ปัตตานี จำนวน 1,000 คน ร่วมกันเดินรณรงค์เรียกร้อง ให้เกิดการยุติความรุนแรงในทุกรูปแบบ พร้อมกันนั้นยังประกาศเชิญชวนร่วมกันสร้างพื้นที่ปลอดภัย ยุติความรุนแรง พร้อมหยุดซ้ำเติมเหยื่อ ช่วยกันเสริมพลังสตรีเพื่อสร้างสันติสุขให้เกิดแก่ชายแดนใต้
วันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 บริเวณถนนลานวัฒนธรรม จังหวัดปัตตานี กลุ่มพลังมวลชน ที่สมาชิกส่วนใหญ่เป็นสตรีและเด็ก จาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อันประกอบด้วย สมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี , เครือข่ายผู้หญิงยุติความรุนแรงและเจ้าหน้าที่รัฐ จำนวน 1,000 คน ได้ออกมาร่วมกันเดินรณรงค์ 1 เสียงเพื่อร่วมยุติความรุนแรง เนื่องในวันขจัดความรุนแรงต่อสตรีสากล เพื่อเรียกร้องให้ทุกฝ่ายเลิกใช้ความรุนแรงต่อเด็กและสตรี
โดยมีการสวมเสื้อสีล้มพร้อมถือร่มสีส้ม เพื่อเทิดพระเกียรติ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เพราะท่านทรงรับหน้าที่เป็นทูตสันถวไมตรีให้แก่ Unifem ท่านทรงมีความห่วงใย พร้อมรณรงค์สนับสนุนรายชื่อ 1,000,000 ล้านเสียงทั่วประเทศไทย เพื่อหยุดความรุนแรงต่อสตรีในประเทศไทย ตั้งแต่ปี พ.ศ.2553 เป็นต้นมา พร้อมถือป้ายรณรงค์ เรียกร้องให้เลิกการก่อเหตุความไม่สงบรวมทั้งเลิกใช้ความรุนแรงกับเด็กและสตรีทุกชนิด
นอกจากนี้บริเวณห้องประชุม อบจ. ก็จัดกิจกรรมบรรยายพิเศษ ซึ่งมีชื่อว่า ‘ผู้หญิงปกป้องสิทธิ ร่วมยุติความรุนแรง’ โดย มีการบรรยายพิเศษ ที่เรียกว่า ‘ผู้หญิงกับสันติภาพ’ ภายใต้การบรรยายของ รศ.เสาวนีย์ จิตต์หมวด ดำรงตำหน่ง ผอ.หลักสูตรการเสริมสร้างสังคมสันติสุข สถาบันพระปกเกล้า อีกทั้งยังมี การแสดงวัฒนธรรม พร้อมการประกาศเจตนารมณ์ร่วมกันในการมีส่วนร่วม ‘สร้างพื้นที่ปลอดภัย ณ ชายแดนใต้’
โดยมีข้อเรียกร้องเพื่อขอความร่วมมือจากทุกฝ่าย ไม่ว่าจะทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ , ประชาชน รวมทั้งผู้มีความเห็นต่างจากรัฐทั้งมวล กรุณาปฏิบัติตามข้อเสนอ 3 ข้อ ได้แก่…
- เรียกร้องขอให้ทุกฝ่ายได้สนับสนุน เพื่อร่วมสร้างพื้นที่ปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นสถานที่สาธารณะ เช่น บ้าน , วัด ,มัสยิด , โรงเรียน , ตลาด รวมทั้งพื้นที่อื่นๆ เพื่อให้เป็นอาณาเขตปลอดจากอบายมุขทั้งหมดทั้งมวล รวมทั้งการใช้อาวุธ , วัตถุระเบิดทุกประเภท เพื่อสร้างความมั่นคงให้แก่ประชาชน
- ขอความร่วมมือในการพัฒนา เพื่อแก้ไขปัญหาพร้อมสอดส่องดูแล ให้ความช่วยเหลือต่อกัน เพื่อให้สตรี , เด็ก ได้รับการศึกษาจนเกิดความมั่นคงทางด้านเศรษฐกิจ เพื่อให้เกิดคุณภาพชีวิตอันงามดีขึ้น
- ขอความร่วมมือในการสนับสนุนการแก้ไขปัญหา ด้วยวิธีสันติวิธี เพื่อให้เกิดความยุติความขัดแย้ง ตลอดจนความรุนแรงทุกในรูปแบบ
- ร้องขอให้รัฐจัดตั้งกองทุนเพื่อการเยียวยาต่อสตรี , เด็ก , เยาวชน เพื่อผลักดันการทำงานขององค์กรสตรีในพื้นที่ต่างๆ เป็นไปด้วยความราบรื่น